วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อ ละคร สวรรค์สร้าง

เรื่องย่อ สวรรค์สร้าง
เรื่องย่อ สวรรค์สร้าง
เรื่องย่อ สวรรค์สร้าง 
บนสนามแข่งมอเตอร์ไซด์วิบาก ชายหนุ่มหน้าหยกคนหนึ่งอยู่บนเหล็กหุ้มเนื้อ เกมอันตรายคือความสุขของเขา นักรบ พยัคฆ์ราชา (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) ควบมอเตอร์ไซด์ผ่านกองไฟและสิ่งกีดขวางสำเร็จ สังคมไฮโซไชโยกันทั้งสนาม สาวสวยทั้งหลายกรูกันเข้าไปเอาใจนักรบ

นักรบกระโดดขึ้นรถสปอร์ตคันหรู ขับเข้าไปทำงานในบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ ในตำแหน่งซีอีโออายุน้อยที่สุดในประเทศ นักรบเป็นนักล่าในสายเลือด เขามีมันสมองระดับอัจฉริยะ นักรบล่าปริญญาโทการตลาดจากต่างประเทศตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบปี ระหว่างนั้นเขาเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างตั้งใจ เมื่อกลับมาประเทศไทย เขาต่อยอดธุรกิจโทรศัพท์ของครอบครัว กลายเป็นเจ้าของสัมปทานเครืองข่ายมือถือระบบใหม่ อายุเพียง 25 ปี นักรบกลายเป็นประธานบริษัทไทเกอร์คิง บริษัทจดทะเบียนมูลค่าพันล้าน ! น่าเสียดาย สติปัญญาของนักรบไม่มีจริยธรรมควบคุม สัตว์เศรษฐกิจอย่างเขาสนใจแต่คำว่าเงิน นักรบทำงานหนัก นักรบเอาแต่ใจตนเอง กดดันพนักงานไม่เห็นหัวหงอกหัวดำ นักรบไม่สนใจงานการกุศล แม้แต่พนักงานอายุมาก เขาก็บีบให้ลาออก


นักรบมองโลกเหมือนเสือ เมื่อธรรมชาติให้เขาเกิดมาเป็นเสือ ผู้มีทั้งนามสกุล เงินทุนและสติปัญญา ทุกคนในโลกก็คือเหยื่อ เหยื่อให้เขาชนะ และแล้ววันหนึ่ง ราชาแห่งเสือก็ถูกโลกตบหน้า ! เขาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต !!

นักรบต้องการกำไรเพิ่มขึ้น เขาสั่งตัดงบเกี่ยวกับความปลอดภัย ไม่ถึงเดือนต่อมา บริษัทของเขาเกิดไฟไหม้ พนักงานชายระดับล่างคนหนึ่ง ชื่อ เอื้อ (รติพงษ์ ภู่มาลี) ถูกไม้คานทับ เอื้อหนีรอดจากเปลวเพลิง แต่กลายเป็นคนพิการ

เอื้อเป็นคนจิตใจดี เขาเชื่อมั่นว่าบริษัทที่เขาทำงานมากว่าสิบปี จะไม่ทอดทิ้งเขา เขาบอกน้องสาวของเขาชื่อ อุ่นใจ (พีชญา วัฒนามนตรี) ว่า เขาจะได้เงินประกันชีวิตก้อนโตที่บริษัททำให้พนักงานทุกคน เอื้อวางแผนใช้เงินก้อนนี้ เปิดร้านซ่อมมือถือเล็กๆ แม้จะพิการแต่เขายังคงมีฝัน เขาจะส่งเสียให้อุ่นใจ น้องสาวเรียนจบ จะเลี้ยงลูกชายวัยสิบขวบ ชื่อ โอ๋ (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ) จะดูแลแม่ นวล (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ที่ป่วยเป็นอัมพาตอยู่ในโรงพยาบาล เอื้อผู้มีจิตใจเข้มแข็งยังคงเชื่อมั่นในบริษัท และเชื่อมั่นในความดีของตนเอง แต่เอื้อคาดผิด นักรบสั่งปิดข่าวและไล่เอื้อออกเพื่อรักษาภาพพจน์ เอื้อบอกน้องสาวของเขา บางทีนายใหญ่อาจยังไม่ได้รับรายงาน


วันต่อมา เอื้อลงทุนเสี่ยงชีวิตเข้าไปขวางรถนายใหญ่ ต่อหน้าคนมากมาย นายใหญ่ยิ้มกับเขา แต่เมื่ออยู่ในห้องส่วนตัว นักรบเปลี่ยนสายตาเป็นเสือร้าย เขาไม่ใยดีต่อความเจ็บป่วยของเอื้อ เมื่อเอื้อถามถึงเงินประกันที่มีให้กับพนักงาน นักรบบอกความจริงว่าเงินประกันนั้นเป็นแค่แผนสร้างภาพพจน์ เขาไม่เคยทำประกันชีวิตให้กับพนักงานคนไหน เอื้อใจสลาย เงินก้อนสุดท้าย โอกาสสุดท้ายในชีวิต เงินที่น้องสาว ลูกชายและแม่ของเขารออยู่ มันไม่เคยมีอยู่ ชายพิการอย่างเขา ไม่สามารถทำตามสัญญาได้


เอื้อกลับบ้าน ไม่พูดไม่จา ไม่หลับไม่นอนอยู่หนึ่งคืนเต็มๆ วันรุ่งขึ้น วันแข่งรถวิบากการกุศลของนักรบ เอื้อทำสิ่งที่ไม่คาดฝัน เขาเข้าไปยืนขวางรถมอเตอร์ไซด์ของนักรบที่พุ่งเข้ามา หวังจะฆ่าตัวตายต่อหน้านักรบ ! เมื่อนักรบทำลายอนาคตเขา ก็จงเอาชีวิตของเขาไปด้วย เมื่อนักรบชอบเป็นนักล่า ชอบการเสี่ยงภัย เหยื่ออย่างเขาจะมายืนให้ล่า ยืนให้ฆ่า ให้สาแก่ใจ เอื้อตัดสินใจวัดค่าราคาความจนของเขาด้วยชีวิตของเขาเอง ! เสี้ยวนาทีนั้น นักรบหักหลบ จังหวะรถของนักรบเสียหลัก นักรบพลาดจากการคำนวณที่เคยแม่นยำ ร่างล้มไถลไปตามทาง ศีรษะของเขากระแทกกับของแข็งเป็นตายเท่ากัน


คืนนั้น ทั้งนักรบและเอื้อต้องถูกนำส่งไอซียู ใครจะเป็นและใครจะตาย ! สองชีวิต หนึ่งรวย หนึ่งจน หนึ่งซีอีโอ หนึ่งพนักงานผู้น้อย หนึ่งผู้ที่มีแต่รับ กับหนึ่งผู้ที่มีแต่ให้ ทั้งสองเป็นหนี้ชีวิตต่อกัน รุ่งเช้ามาถึง เอื้อตาย แต่นักรบรอดชีวิต !! อุ่นใจยืนร้องไห้ อีกแล้ว...บทชีวิตจบลงด้วยความอยุติธรรมอีกแล้ว !! หลังการรักษาเลือดคั่งในสมอง นักรบตื่นขึ้นมาด้วยสภาพสมองที่ไม่เหมือนเดิม เขากลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วขณะ เขาหลงลืมเรื่องต่างๆ ในชีวิต และมีบุคลิกภาพที่เปลี่ยนไป


คุณหญิง นายิกา (สุปรีย์ฎา คำนวณศิลป์) แม่ของนักรบ ปกปิดเรื่องทั้งหมดไว้ เพราะบริษัทพันล้านของเขาต้องอาศัยสมองอัจฉริยะของนักรบเป็นต้นทุนในการบริ หาร หากผู้ถือหุ้นของบริษัทรับรู้ว่านักรบผิดปกติ บริษัทของเขาล้มครืนแน่นอน นายิกาสั่งให้ ทองทิว (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ผู้เป็นทั้งเพื่อนและเลขาของนักรบ จัดการเรียกความทรงจำของนักรบ ทุกๆ วันนักรบต้องดูรูปภาพ จดจำข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา


นักรบคนใหม่ ฟังข้อมูลเหล่านั้น เขาเกิดความรู้สึกประหลาดต่อตัวเขาในอดีต เขาช่างเป็นคนหยิ่งผยองและไร้น้ำใจอย่างสิ้นเชิง ระหว่างนั้น นักรบทำและพูดทุกอย่างตามสคริปต์ที่ทองทิวเตรียมให้ นายิกาและทองทิวต้องทำงานหนักทุกวัน และต้องลุ้นทุกวันว่านักรบจะทำเสียเรื่องวันไหน นักรบคนใหม่ตรงข้ามกับนักรบคนเดิมราวฟ้ากับเหว เมื่อต้องขึ้นไปโชว์มอเตอร์ไซด์วิบาก นักรบคนดีกลัวจนเป็นลมล้มทั้งยืน ทองทิวต้องบอกผู้ชมว่า รถมอเตอร์ไซด์ของนักรบมีปัญหาต้องเลื่อนการแสดงออกไป


หากนักรบคนเดิมเกิดมาพร้อมความโชคดี นักรบคนใหม่ก็เหมือนเกิดมาพร้อมความโชคร้าย หยิบจับอะไรก็ดูจะวินาศสันตะโรไปหมด ให้เป็นประธานตัดริบบิ้น ก็ดันไปตัดโดนสายไฟ ไฟช็อตตัวเอง เมื่อให้ขึ้นไปกล่าวบนโพเดียม ก็ทำเทียนประดับหล่น ไฟไหม้ม่านบนเวที หรือแม้กระทั่งให้ไปแจกของบริจาค ก็ยันเดินตกน้ำลงไปในคลอง พอจะลุกขึ้น มือก็ไปจับไม้กระดาน พาคนอื่นๆ ทั้งแถวที่เดินอยู่ ร่วงตกลงน้ำตามมาด้วยความซุ่มซ่ามเหล่านั้น พอจะยอมรับได้ แต่มีสิ่งหนึ่งยอมรับไม่ได้ …


เมื่อถึงเวลาทำงาน คนเป็นลมคราวนี้คือคุณหญิงนายิกา อัจฉริยะด้านเทคโนโลยีสื่อสารและการตลาดอย่างนักรบกลับอ่านข้อความบนเอกสาร ไม่เข้าใจทั้งที่เป็นคำง่ายๆ นักรบสูญเสียความสามารถด้านการทำงานไปแล้ว ! เหตุการณ์เหล่านี้ อยู่ในสายตาของ นิมมาน (แวร์ โซว) น้องสาวแท้ๆ ของคุณหญิงนายิกา นิมมานมีความแค้นกับคุณหญิงนายิกา ชนิดฆ่ากันได้ ทั้งที่เป็นพี่น้องแท้ๆ นิมมาน อิจฉาริษยาที่พี่สาวร่ำรวยและมีลูกชายอัจฉริยะ ในขณะที่ตนมีลูกชายเป็นเพลย์บอยไม่เอาถ่านชื่อ นักคิด (ณัฐวัฒน์ เปล่าศิริวัธน์) นิมมานและนักคิดทำงานในบริษัทของนักรบ ถูกนักรบด่าเสียๆ หายๆ ต่อหน้าสาธารณะเสมอ เพราะทั้งนิมมานและลูก ขี้เกียจ ไม่สนใจงานการในคฤหาสน์สวยงาม บางครั้งมีเรื่องเลวร้ายซ่อนอยู่ นายิกาและนิมมานตบตีกัน ว่าด้วยเรื่องสมบัติและลูกชายของตนอยู่เนืองๆ ทั้งคู่ไม่สนใจคำว่าสายเลือด ผลประโยชน์และความเด่นดังเท่านั้นที่ทั้งสองต้องการ


สำหรับนักคิด นักคิดเคยคบกับสาวสวยไฮโซ ชื่อ ดาราราย (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ดารารายเป็นเสือโดยสายเลือด สวยฉลาดและเย่อหยิ่ง ดารารายชอบใช้เงินต่อเงิน เมื่อดารารายพบว่า คนที่ฉลาดและร่ำรวยกว่าคือ นักรบ ดารารายสาวแสบก็หันไปคบกับนักรบ นักรบและนักคิดจึงมีเรื่องมีราวชกต่อยกันเพราะดาราราย ช่วงหลังมานี้นิมมานและนักคิด แอบทรยศหักหลังไปเข้ากับ จอมภพ (สิรคุปต์ เมทะนี) เจ้าของบริษัทสัมปทานโทรศัพท์คู่แข่ง ทั้งที่ยังทำงานอยู่ในบริษัทของนักรบ นิมมาน นักคิด และจอมภพ ล้วนเคยเป็นเหยื่ออารมณ์ร้าย เอาแต่ใจตัวของนักรบ พวกเขามีเหตุผลพอที่จะเกลียดนักรบ เมื่อนักรบเสือร้ายกำลังจะสิ้นลาย นิมมาน นักคิดและจอมภพ จึงสุมหัวก่อเรื่องในบริษัทหวังจะถอดนักรบออกจากตำแหน่ง สำหรับดาราราย หล่อนดูจะเป็นอีกคนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของนักรบมากที่สุด เพราะในเวลานั้นนักรบเพิ่งขอดารารายแต่งงานได้เพียงสามวัน

หญิงสวย ฉลาด รู้เวลาอย่างดาราราย ทำให้นักรบผูกพันใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นคิดจะแต่งงาน ไม่ใช่เพราะความรัก เพราะคนอย่างนักรบไม่รู้จักความรัก แต่เพราะดารารายเป็นลูกสาวนักการเมือง ท่านรัฐมนตรีตุลย์ (คาเมล ซาลวาลา) ที่พร้อมจะสนับสนุนการงานของไทเกอร์คิง ดารารายมีวิญญาณเสือร้ายเหมือนกับนักรบ อาวุธของหล่อนคือความอ่อนหวาน อ่อนโยนที่ปกปิดความโลภไว้ภายใน ดารารายอยากแต่งงานกับนักรบเพื่อได้ส่วนแบ่งในบริษัท ในขณะที่นักรบคิดว่า ดารารายคู่ควรกับเขาในทุกสถานะ คนอย่างนักรบ เรียกความคู่ควรเช่นนี้ว่าความรัก ก่อนหน้าอุบัติเหตุคนทั้งสองได้หมั้นหมายและบอกเรื่องนี้กับคนในครอบครัวแล้ว !


วันหนึ่ง ในชั่วโมงอัพเดทข้อมูลประจำวันตอนเช้า นักรบถามทองทิวเรื่องการตายของเอื้อ เมื่อทองทิวเล่าให้ฟัง นักรบมีอาการปวดหัวอย่างหนัก ถึงกับอาเจียนออกมา นักรบละทิ้งการประชุมสำคัญไปหาเอื้อที่บ้านทันที นักรบแอบมอง อุ่นใจน้องสาวเอื้อที่หน้าบ้าน เขาเห็นอุ่นใจเล่นกับด.ช.โอ๋ ลูกชายของเอื้อ อาหลานร้องเพลงด้วยกันอย่างร่าเริง แต่พอรถสองแถวมารับโอ๋ไปโรงเรียน การเล่นละครให้หลานมีความสุขก็จบลง อุ่นใจทรุดตัวร้องไห้คิดถึงพี่ชาย


เมื่ออุ่นใจเห็นนักรบ หล่อนโมโหจัดเข้ามาตบตีนักรบ และตะโกนให้เพื่อนบ้านออกมาดูนักรบ จนนักรบหวิดโดนประชาทัณฑ์ ดีที่ทองทิวตามมาทันและมาช่วยไว้ได้ วันนั้นเองนักรบปวดหัวหนักขึ้น ครั้งนี้เขาเห็นภาพอุบัติเหตุที่เอื้อตายต่อหน้าวนเวียนเข้ามาในหัว วันต่อมา นักรบไปหาโอ๋ที่โรงเรียน เขาได้ยินเมื่อวานนี้ว่าโอ๋จะลงแข่งขันฟุตบอล เอื้อพ่อของโอ๋เคยสัญญาว่าจะมาดู และจะมาเป็นโค้ชส่วนตัวให้โอ๋ นักรบเห็นอุ่นใจอยู่ด้วย เขาไม่กล้าปรากฏตัว แต่เมื่อเห็นโอ๋กำลังจะแพ้ นักรบทนไม่ได้รีบเข้าไปเป็นโค้ชให้โอ๋ โอ๋มีกำลังใจขึ้นมากลับมาเป็นผู้ชนะ อุ่นใจโมโหมาก เข้ามาไล่นักรบ แต่โอ๋บอกว่านักรบสอนเตะบอลเหมือนพ่อเอื้อ ใจดีเหมือนพ่อเอื้อ โอ๋ถามนักรบ พ่อเอื้อขอให้นักรบมาช่วยโอ๋และอาอุ่นใจใช่หรือไม่ นักรบน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว เขาบอกว่าใช่ เขาคือเพื่อนของพ่อเอื้อ เขาจะช่วยดูแลอุ่นใจ โอ๋และย่าของโอ๋แทนเอื้อที่ตายไป


หลังจากนั้นทุกวัน อุ่นใจจะเห็นนักรบพร้อมสายตาเศร้าๆ บางครั้งมาจอดรถรอหล่อนอยู่ที่หน้าบ้าน บางครั้งไปเตะบอลกับโอ๋ และบางครั้งขับรถคันโตมาแอบดูหล่อนทำงานเป็นคนเสริฟที่ร้านฟาสฟู้ด สาวๆ ในร้านทั้งคนขายและคนซื้อ แทบไม่เป็นอันทำอะไร พากันออกมายืนดูหนุ่มหล่อเลือกได้ หน้าหวานข้างรถสปอร์ต ที่สมัครใจรอแต่สาวเสริฟนักสู้อย่างอุ่นใจ ทองทิวผู้จงรักภักดี ถามนักรบว่า รู้สึกกับอุ่นใจเหมือนดารารายหรือไม่ นักรบบอกว่าเขาไม่แน่ใจในความรู้สึกตนเองนัก หลายวันที่ผ่านมา เขาอยู่กับดาราราย คนที่ใครๆ บอกว่าเป็นแฟนของเขา แต่ดารารายไม่เหมือนอุ่นใจ ดารารายสง่างาม และฉลาด แต่ชอบใช้นักรบเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาหน้าตา เกียรติยศให้กับตนเองและครอบครัวหล่อน


ดารารายสนใจแต่เป้าหมายคือเงินและความยิ่งใหญ่ แต่ไม่สนใจว่านักรบจะสุขทุกข์ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยู่กับดารารายจึงเหมือนอยู่กับตุ๊กตาหินอ่อน สวยสง่างาม แต่เยือกเย็นจนน่ากลัว ไม่เหมือนกับการนั่งมองอุ่นใจที่อยู่ตรงหน้า เมื่ออุ่นใจยิ้ม หัวเราะ คนรอบข้างอยากหัวเราะตาม และเมื่อ อุ่นใจร้องไห้ นักรบก็แทบอยากจะกระโดดลงไปกอดหล่อน ปลอบใจ


อุ่นใจในร้านคุยเรื่องของนักรบเช่นกัน กับ ดอกจัน (ป่านทอง บุญทอง) เพื่อนรัก อุ่นใจกำลังสงสัย บางทีนักรบอาจจะรู้ว่าอุ่นใจติดต่อสถานีโทรทัศน์ เพื่อแฉการตายของพี่ชาย ดอกจันบอกว่า คนพรรค์นั้น ถ้าทำจริง คงโยนเงินฟาดหัวเรามาแล้ว ไม่มานั่งรอให้เสียเวลาเช่นนี้


วันต่อมา เกิดเรื่องขึ้นอีก โอ๋หลุดปากบอกนักรบว่าอุ่นใจลาออกจากมหาวิทยาลัยทั้งที่เรียนถึงปีสาม การเรียนให้จบปริญญาตรีเป็นความตั้งใจอีกอย่างของเอื้อ แต่เมื่อเอื้อตาย อุ่นใจจึงหยุดเรียน เมื่อรู้เรื่อง นักรบจ่ายเงินค่าเทอมให้อุ่นใจเรียนต่อ อุ่นใจโมโหมาก ด่าว่าเอาน้ำสาดนักรบ ทั้งสองโต้เถียง ท้ายสุด อุ่นใจแพ้เหตุผลของชายหนุ่มหน้าใส ผู้เคร่งขรึม จำต้องลงเรียนอีกครั้งหนึ่ง วันนั้นนักรบตามโอ๋เข้าไปในบ้านและเข้าไปที่ห้องของเอื้อ การได้ใกล้ชิดเอื้อขนาดนั้นทำให้เขาปวดหัวและเป็นลมต้องนำส่งโรงพยาบาล ทองทิว และนายิการับรู้จากหมอว่า เลือดที่คั่งในสมองกำลังเบียดสมองส่วนความจำ ไม่มีใครรู้ว่าจะมีผลอย่างไรต่อความจำของนักรบบ้าง จนกว่าเลือดที่คั่งจะหายไป ซึ่งต้องกินเวลาหลายเดือน


วันรุ่งขึ้นนักรบไปวัดที่เอื้อโตมา เขาจำได้จากรูปในห้องว่าเอื้อเคยเรียน เคยอาศัยข้าวพระ และเคยมาบวชที่วัดแห่งนี้ อุ่นใจและโอ๋มาที่นี่เหมือนกัน นักรบขอให้โอ๋พาไปหาแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาต แม่ที่เป็นอัมพาตชื่อ นวล ไม่รู้เรื่องลูกชายตาย เพราะเป็นความลับที่อุ่นใจและโอ๋ไม่ยอมบอกเพราะเกรงว่า ย่านวลจะทนความสะเทือนใจไม่ไหว โอ๋บอกย่าไปว่า นักรบเป็นเพื่อนพ่อและเป็นแฟนของอาอุ่น นั่นทำให้อุ่นใจตบกะโหลกโอ๋ แต่ทำให้นักรบยิ้มออกมา


นักรบวันนี้ ดูเป็นคนอ่อนโยนเยือกเย็น เขาดูแลคนป่วยโดยไม่รังเกียจ อุ่นใจเริ่มคิดว่านักรบสำนึกผิด หล่อนเลื่อนการเปิดโปงบริษัทของนักรบกับสถานีโทรทัศน์ออกไป เพียงไม่นาน ดารารายก็เริ่มสงสัยเรื่องของอุ่นใจ ดารารายได้พบอุ่นใจโดยบังเอิญ โดยปรกติ ดารารายไม่สนใจคู่นอนชั่วคราวของนักรบ แต่เมื่อคะเนว่า อุ่นใจจะเป็นมากกว่าคู่นอน ดารารายเริ่มแผนร้ายของตนทันที ดารารายทำหวานใส่อุ่นใจ แกล้งอ่อนโยนและวางตนเป็นเพื่อน แต่ในขณะเดียวกัน ดารารายก็ให้เพื่อนของหล่อน ซูซี่ (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) คอยกลั่นแกล้ง ทั้งสองไปพบอุ่นใจที่ร้าน แล้วแกล้งเอาแมลงสาบใส่ในอาหาร จนอุ่นใจหวิดจะโดนไล่ออก


วันต่อมา ดารารายและซูซี่ พาอุ่นใจไปงานเลี้ยง แต่กลับใช้งานอุ่นใจเหมือนเป็นคนใช้ต่อหน้าคนอื่น นักรบเห็นดังนั้น เขาออกโรงปกป้องอุ่นใจ ซูซี่โมโห จึงแกล้งชนอุ่นใจตกสระน้ำ เพื่อให้เป็นที่หัวเราะเยาะของคนทั้งงาน นักรบเห็นดังนั้น จึงกระโดดลงสระน้ำ และสั่งให้เพื่อนทั้งหลาย เปลี่ยนลงมาปาร์ตี้ในน้ำ เพื่อแก้หน้าให้อุ่นใจ ดารารายเริ่มหมดความอดทน หล่อนทะเลาะกับนักรบ เรื่องอุ่นใจ นักรบขอถอนหมั้นกับดารารายทันทีต่อหน้าอุ่นใจ ! ต่อมา โอ๋บอกนักรบว่า พ่อเคยสัญญาจะพาไปทะเล เพราะโอ๋ไม่เคยเห็นทะเล นักรบกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ชีวิตที่ไร้ความหมายของเขาได้รับเป้าหมายที่น่าสนใจแล้ว นักรบพาอุ่นใจและโอ๋ไปพักผ่อนที่ทะเลสามวันสามคืน เวลานั้นโอ๋มีความสุขเหมือนมีพ่อและมีอาอุ่นที่เขายึดไว้เป็นแม่ เพราะแม่แท้ๆ ของโอ๋ทิ้งโอ๋ไปหลายปีแล้ว เพื่อไปอยู่กับสามีใหม่


คนที่มีความสุขรองลงมาคือนักรบ ทองทิวบอกว่า นักรบคนเดิมเคยแต่มาทะเล เพื่อประชุมในโรงแรม นักรบไม่เคยถอดรองเท้าเดินเล่นหาดทรายเหมือนนักรบในเวลานี้ เพราะรู้สึกเสียเวลา ทองทิวได้แต่ขอร้องให้นักรบปกปิดความลับเรื่องความจำเสื่อมกับอุ่นใจและเด็ก โอ๋ เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง นักรบรับปาก สามวันที่บ้านพักริมทะเล ทำให้อุ่นใจหวั่นไหว นักรบผู้เคร่งขรึมไม่ชอบพูด ชอบใช้สายตามองหล่อนอย่างเงียบๆ สายตาแสนสวยของนักรบ มองหญิงธรรมดาอย่างหล่อนเหมือนสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลก ทุกอย่างที่หล่อนทำ หล่อนสนใจ นักรบจะทำตามและสนใจตามไปด้วย เขามีทั้งความสนใจและความชื่นชมเต็มที่ให้กับหล่อน ระหว่างนั้นสถานีโทรทัศน์โทรมาชักชวนอุ่นใจให้แฉบริษัทของนักรบอีก อุ่นใจตัดสินใจบอกเขาไปว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนไม่มีอะไรที่จะแฉบริษัท “ไทเกอร์คิง” ของนักรบ ก่อนกลับ นักรบหลุดปากถามถึงงานศพของเอื้อ อุ่นใจบอกว่า ศพของเอื้อยังไม่ได้เผา อุ่นใจพานักรบไปดูช่องเก็บศพ ที่รอให้ครบร้อยวันของเอื้อ นักรบเกิดภาพหลอนเรื่องอุบัติเหตุจนปวดหัว เขาเป็นลมอีก ทองทิวต้องพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง ครั้งนี้เขาสลบนานกว่าปกติ


หมอจัดการสแกนสมองของนักรบ หมอพบสิ่งผิดปกติ เลือดที่คั่งอยู่ในสมองของนักรบ มีอาการบวมช้ำขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ และผลที่เกิดขึ้น ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เมื่อนักรบฟื้นขึ้น จะเป็นอย่างไร และแล้วนักรบก็ฟื้นขึ้น สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนรอบข้าง เขาลุกจากเตียง ด้วยแววตาของเสือ ! นักรบคนเดิมกลับคืนมา นักรบถามเรื่องราคาหุ้นของบริษัทเป็นอันดับแรก นักรบคนนี้ไม่รู้สึกรู้สมกับการตายของเอื้อแม้แต่น้อย ! นักรบเสือร้ายเปิดห้องประชุมไล่บี้กรรมการ แก้ไขเรื่องราคาหุ้นตกตลอดทั้งคืน ราวกับที่ผ่านมาคือการหลับฝันไป !!


นายิกาดีใจที่เห็นเช่นนั้น นายิกาขอให้ทองทิวปกปิดเรื่องนักรบคนใจดี อย่าเล่าให้นักรบเสือร้ายฟัง เขาอาจสับสนได้ นักรบจึงไม่สามารถจดจำช่วงเวลาหรือผู้คนในเวลาหนึ่งเดือน ที่เขาเป็นคนดีได้ ทองทิวพูดคุยเรื่องนี้กับหมอ หมอไม่เคยพบเรื่องแบบนี้มาก่อน สมองส่วนจริยธรรมมีจริงหรือไม่ ยังเป็นข้อถกเถียง หมอเชื่อว่า นักรบอาจมีอาการทางจิต เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่อง เขาจะได้รับความกดดันจากเรื่องของเอื้อ บางครั้งเขาใช้บุคลิกคนดีเพื่อแก้ไข แต่บางครั้งเขาเลือกที่จะผลักปัญหานั้นออกไป ผลสุดท้ายเมื่อสับสนมากๆ เขาจึงกลายเป็น “คนสองบุคลิก” กลายเป็นว่า เวลานี้นักรบเป็นทั้งคนป่วยทางร่างกายและป่วยทางจิตใจ


อุ่นใจรู้สึกเป็นห่วงอาการป่วยของนักรบ อุ่นใจมาที่บริษัทของนักรบ ทันทีที่เดินเข้าไป อุ่นใจเห็นแววตาคู่สวยคู่นั้นเปลี่ยนไป นักรบมองหล่อนหัวจรดเท้าเพื่อประเมินราคา นักรบเสือร้ายจำอุ่นใจไม่ได้ !! เมื่ออุ่นใจชวนคุย นักรบเสือร้ายก็ให้ ร.ป.ภ.มาจับอุ่นใจออกไปโยนข้างนอก เพราะเชื่อว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ อุ่นใจถูกจับมาเหวี่ยงทิ้งกับพื้น อุ่นใจร้องไห้อับอายคนอยู่หน้าบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ในฐานะสิบแปดมงกุฎ อุ่นใจตะโกนด่านักรบหล่อนเข้าใจแล้ว นักรบมาทำดีเพราะรู้เรื่องตนกับสถานีโทรทัศน์ใช่ไหม พอตนบอกสถานีโทรทัศน์ไปว่า เข้าใจผิด นักรบก็บรรลุวัตถุประสงค์ เลยเสือกไสไล่ส่งตนใช่หรือไม่


ดารารายและนายิกายืนฟังเรื่องดังกล่าวเชื่อสนิทใจเช่นเดียวกับอุ่นใจ นายิกาเอ่ยชมลูกชายไม่ขาดปาก ฐานที่รู้จักใช้ความหล่อ หลอกผู้หญิงจนเป็นประโยชน์กับบริษัท และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นักรบคนใหม่ กลับมารักและหวานชื่นกับดาราราย ต่อหน้าอุ่นใจอีกด้วย อุ่นใจเดินร้องไห้ออกมาจากบริษัท จนหวิดจะถูกรถสปอร์ตของ จอมทัพ (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ชน จอมทัพพาอุ่นใจไปโรงพยาบาล อุ่นใจพบว่าจอมทัพไม่ใช่ชายจิตใจดีธรรมดา แต่เขาเป็นลูกชายของจอมภพ เจ้าของสัมปทานมือถือคู่แข่งของนักรบนั่นเอง


จากนั้นมา จอมทัพก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่แปรเปลี่ยนความสงสารที่มีต่ออุ่นใจ กลายเป็นความประทับใจฉันท์หนุ่มสาว จากนั้นไม่นาน เมื่ออุ่นใจไปทำงานพิเศษในผับหรู อุ่นใจพบว่านักรบกำลังมีอันตราย นักรบถูกนักเลงสมุนของนักคิด รุมทำร้าย อุ่นใจจำใจต้องช่วยเหลือ และพานักรบมาส่งที่บ้าน เมื่อนักรบตื่นขึ้น อุ่นใจก็อดไม่ได้ที่จะดูแล นักรบผู้ดุดันเข้าใจไปว่า อุ่นใจให้ท่าเขา หวังจะร่ำรวยด้วยการเป็นคู่รักของเขา นักรบจัดการปลุกปล้ำอุ่นใจทันที อุ่นใจตกใจและต่อสู้ อุ่นใจวิ่งออกมาพบกับดาราราย ดารารายแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของนักรบ สั่งให้ซูซี่ทำร้ายตบตีอุ่นใจ นักรบเข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังเย็นชาและยกย่องดารารายมากกว่า นักรบยังคงจำอุ่นใจไม่ได้ !


วันต่อมา ทองทิวตามมาพบอุ่นใจ บอกให้อุ่นใจรู้เรื่องนักรบความจำเสื่อม อุ่นใจเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เมื่อโอ๋หายไปจากบ้าน เพื่อไปตามหานักรบ อุ่นใจจำเป็นต้องออกไปพบนักรบอีก นักรบมีอาการปวดหัวเพราะได้พูดคุยกับโอ๋ โอ๋บอกอุ่นใจว่า สงสัยนักรบจะกลับมาเป็นนักรบใจดี แต่เปล่าเลย เมื่อนักรบตื่นขึ้น นักรบก็ให้คนไล่โอ๋และอุ่นใจออกไปจากบ้าน อุ่นใจปฏิญาณกับตนเอง หล่อนจะไม่ข้องแวะกับผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว อุ่นใจเศร้าสร้อย ยังไม่ทันจางหาย ทุกข์ที่หนักหนากว่านั้นก็ถาโถมเข้ามา นายิกาให้คนสืบเรื่องของอุ่นใจ และตามไปพบกับนวลแม่ของอุ่นใจที่โรงพยาบาล นายิกาด่านวล ว่าเป็นนักฉวยผลประโยชน์ นวลที่ป่วยหนัก จิตใจอ่อนแออยู่แล้ว เพิ่งรับรู้ว่าลูกชายของตน เอื้อตายไปหลายเดือนแล้ว !


คืนนั้น นวลหลับตาลง หมดกำลังใจในการต่อสู้โรคร้าย หล่อนตาย...อุ่นใจหัวใจสลาย นักรบและครอบครัว ฆ่าพี่ชาย และตอนนี้ฆ่าแม่ของหล่อนด้วย อุ่นใจปาดน้ำตาทิ้ง พอกันที กับน้ำตาของคนอ่อนแอ ดวงตาสาวน้อยอ่อนแอกลายเป็นนางเสือตัวน้อย ที่พร้อมจะสู้กับราชาแห่งเสือ ! อุ่นใจเดินสายไปที่องค์กรต่างๆ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพี่ชาย หล่อนออกสถานีโทรทัศน์ ร้องเรียนสื่อ เรื่องบริษัทยักษ์ใหญ่ของนักรบ โกหกเรื่องสวัสดิการประกันชีวิต ! นายิกาแทบเต้น หุ้นตกกราวรูด นักรบเสือร้ายคิดหนัก นักรบขุดคุ้ยประวัติของอุ่นใจจนรู้ว่า อุ่นใจรู้จักกับจอมทัพ นักรบวางแผน นำภาพถ่ายความสนิทสนมของจอมทัพและอุ่นใจออกเผยแพร่ เพื่อบอกสื่อว่า อุ่นใจถูกจ้างวานให้สร้างเรื่องโกหกโดยจอมทัพ คู่แข่งทางธุรกิจของบริษัทไทเกอร์คิง


นักรบเสือร้าย ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับอุ่นใจเลย เขาทำได้แม้แต่อุ่นใจ ผู้หญิงที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ แต่ยังไม่ทันที่ เขาจะเริ่มแผนการร้าย นักรบมีเรื่องทะเลาะชกต่อยกับนักคิด เพราะเรื่องแย่งชิงดาราราย การต่อสู้ทำให้นักรบถูกแจกันตีเข้าที่ศีรษะ อีกครั้งที่โชคชะตาจงใจเล่นตลก ไม่ว่าสวรรค์จะสรรค์สร้าง หรือสวรรค์จะลวงหลอก ...นักรบเสือร้ายกลายกลับมาเป็นนักรบคนซื่ออีกครั้ง ! การต่อสู้จบลงทันที อุ่นใจปลอดภัย เรื่องไม่ไปถึงนักข่าว นักรบคนดีทำสิ่งที่กล้าหาญ แต่ยากจะยอมรับได้ เขาแถลงข่าวยอมรับผิด เขาทำให้เอื้อตาย กรรมการทั้งหลายไล่นักรบออก แต่งตั้งนิมมานเป็นผู้บริหาร เพื่อให้บริษัทอยู่รอด


ชีวิตพลิกผัน นักรบและนายิกาสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่เกือบทั้งหมด ทั้งสองต้องขายคฤหาสน์ มาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าของครอบครัว นายิกาล้มป่วยหนัก และกลายเป็นคนโรคจิต อาละวาดสลับกับซึมเศร้าจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล นักรบเหลือเพียงทองทิวคนเดียวที่เป็นเพื่อนตาย ในที่สุด ราชาแห่งเสือก็ล้มครืนลงเพราะนางเสือฝึกหัด สาวน้อยจนๆ เพียงคนเดียว จอมภพพ่อของจอมทัพ เมื่อรู้ว่าจอมทัพรู้จักกับอุ่นใจ จอมภพให้จอมทัพพาอุ่นใจมาที่บริษัท ว่าจ้างให้อุ่นใจทำงานพาร์ทไทม์ ในตำแหน่งเลขาของจอมทัพ เพื่อตอบแทนที่อุ่นใจล้มบริษัทของนักรบลงได้ เมื่อนักรบคนซื่อกลับมา เขาออกติดตามหาอุ่นใจที่เขารัก ไม่มีอีกแล้วสาวน้อยชีวิตเรียบง่ายคนเดิม อุ่นใจกลายเป็นสาวสวยหวานใจคนใหม่ของจอมทัพ ทายาทเศรษฐี !


ชีวิตใหม่ของอุ่นใจ คือการเข้าไปอยู่ในวงจรของคนรวย ที่มีแต่การอิจฉาริษยาและแก่งแย่งชิงดี ยิ่งจอมทัพให้ความสนใจอุ่นใจ อันตรายก็พุ่งมาหาอุ่นใจมากขึ้น เพื่อนในออฟฟิศทั้งหลาย นำโดย หัวหน้าเลขาชื่อ พิม (น้ำทิพย์ เสียมทอง) ทุกคนรวมหัวกันสกัดดาวรุ่ง กลั่นแกล้งอุ่นใจเรื่องงาน จอมภพพ่อของจอมทัพเอง ต้องการให้อุ่นใจเป็นแค่คู่นอนไม่ใช่แม่ของลูก จอมภพพยายามกดดันจอมทัพเรื่องของอุ่นใจ จนอุ่นใจรู้สึกได้ถึงความรู้สึกรังเกียจและดูถูก แม้แต่ดาราราย หลังจากพบว่านักรบตกต่ำ ดารารายสาวไฮโซ จิตใจร้ายกาจก็เปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้ามาหาจอมทัพทันที หล่อนต้องการเป็นเจ้าของจอมทัพแต่เพียงผู้เดียว และแน่นอน อุ่นใจกลายเป็นเหยื่อของดารารายอีกครั้ง เมื่อนักรบเข้ามา อุ่นใจเชิดใส่นักรบ โดยเอาจอมทัพเป็นเกราะกำบัง ทั้งที่อุ่นใจไม่ได้รักจอมทัพ อุ่นใจรู้อยู่แก่ใจ หล่อนไม่สามารถลืมสายตาสวยงามของนักรบคู่นั้นได้


นักรบพยายามเอาใจใส่ดูแลนายิกา แต่นายิกาทั้งตบตีและด่าทอนักรบว่าลูกอกตัญญู นักรบพยายามอธิบายว่า หากเราทำผิด เราต้องยอมรับผิด การลาออกของเขาถูกต้องแล้ว แต่นายิกาไม่ยอมรับ นายิกายืนยันจะให้นักรบกลับไปเป็นราชาแห่งเสือ และเอาทุกอย่างในบริษัทไทเกอร์คิงกลับคืนมา ไม่เช่นนั้น นายิกาจะฆ่าตัวตาย หากต้องอยู่อย่างยากจน นายิกาขอตายดีกว่า ! เรื่องของนายิกาทำให้นักรบคิดหนัก เมื่อนักรบหาคำตอบไม่ได้ นักรบจึงไปหาอุ่นใจ นักรบทำดีกับอุ่นใจและโอ๋เหมือนเช่นเคย อุ่นใจกับโอ๋ปฏิบัติต่อนักรบอย่างเย็นชา นักรบพยายามยืนยัน นี่คือตัวจริงของเขาและเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เสือร้ายในตัวของเขามีชีวิต ขึ้นมาอีก


อุ่นใจเห็นความพยายามของนักรบอีกครั้ง อุ่นใจเริ่มสับสน ทองทิวพยายามอธิบาย นักรบเป็นโรคจิต นักรบเกลียดด้านมืดของตนเอง จิตใต้สำนึกจึงกดดันให้ลืมอดีตส่วนที่เลวร้าย แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อชีวิตถูกกดดันมากเข้า นักรบจะแสดงสัญชาติญาณด้านมืด เป็นบางครั้งบางคราว แล้วลืมชีวิตส่วนที่ดีงามของตนเสีย


และในวันที่อุ่นใจใจอ่อน ยอมไปทะเลกับนักรบอีกครั้ง อุ่นใจก็พบข่าวของตนเอง ถูกรายงานออกสื่อต่างๆ ว่าเป็นพวกหลอกลวง สร้างหลักฐานปลอมเรื่องเอื้อ ข่าวทั้งหมดนี้คือข่าวที่นักรบเสือร้ายทำไว้ก่อนหน้าที่จะกลับมาเป็นคนดี และเมื่อนายิกาไปพบเข้าโดยบังเอิญ นายิกาก็จัดการปล่อยมันออกมา อุ่นใจตบหน้านักรบทันที หล่อนเข้าใจไปว่า นักรบต้องการแก้แค้น จึงแกล้งสร้างเรื่องโรคจิตขึ้นมาหลอกลวงหล่อน อุ่นใจประชดนักรบด้วยการประกาศหมั้นกับจอมทัพ จอมภพด่าทออุ่นใจ ดารารายเต้นผาง คิดจะทำร้ายอุ่นใจ แต่เวลานี้อุ่นใจกลับไปเป็นอุ่นใจคนใหม่ อุ่นใจตบกลับดาราราย และต่อล้อต่อเถียงกับจอมภพ หล่อนยืนยันหล่อนจะแต่งงานกับจอมทัพ โลกใบนี้ ได้เหยื่อรายใหม่ .... ความกดดันทั้งปวง ดึงสัญชาติญาณเสือในตัวมนุษย์ออกมาไม่เว้นแม้แต่อุ่นใจ !


อุ่นใจประชดบอกนักรบว่าที่ตนแต่งงานกับจอมทัพ ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เพราะเรื่องผลประโยชน์ ถ้านักรบสามารถกลับมาผงาดในบริษัทไทเกอร์คิงของเขา เอาชนะบริษัทของจอมทัพได้ ไม่แน่หล่อนอาจจะกลับไปคบกับนักรบ

อุ่นใจพูดด้วยอารมณ์ แต่นักรบถือเป็นจริงเป็นจัง ! ค่ำคืนนั้น นักรบตัดสินใจเรียกเอาเสือร้ายในตัวเอง แบบที่นักรบคนเดิมมี ออกมาใช้เพื่อเอาบริษัทกลับคืนมา นักรบเข้าไปในห้อง เอาข้อมูลของนักรบคนเดิม คลิปวีดีโอ และภาพถ่าย มานั่งเปิดดูทั้งวันทั้งคืน ความเลวร้ายของนักรบในอดีต ถูกใส่เข้าไปในสมองของเขาอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ จนเขาเป็นลมล้มลง หลังจากตื่นขึ้น แววตาเสือร้ายกลับคืนมาอีก นักรบนั่งอ่านเอกสาร แล้วร่างแผนงานขึ้นมาหนึ่งเล่ม มันสมองอัจฉริยะของเขากลับคืนมาแล้ว !

นักรบใส่สูทสีเข้ม แว่นตาสีชา ขับรถสปอร์ต เดินอย่างสง่างาม กลับไปที่ไทเกอร์คิง นักรบเดินเข้าไปหากรรมการทั้งหลาย ขอกลับเข้ามาทำงานในบริษัท เขาให้คำสัญญาว่าเขาจะทำให้บริษัท ได้เป็นเจ้าของสัมปทานดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ ! ไม่เพียงเท่านั้น เขายังพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาด้วยการกลับไปขี่รถมอเตอร์ไซด์วิบาก เขาใช้สมองคำนวณความปลอดภัย แล้วขึ้นขับมันอย่างมั่นใจเหมือนเสือร้ายตัวเดิมที่เขาเคยเป็น ทุกคนพากันอึ้งและสับสน ยามนี้เขาเป็นใครกันแน่ นักรบเสือร้ายหรือ นักรบคนดี ?


นิมมานออกโรงปฏิเสธการกลับมาของนักรบ แต่กรรมการทั้งหลายตอบตกลง นายิกาดีใจมาก ออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาทำงานช่วยนักรบอีกแรง นักรบจัดการไปหาดาราราย เพื่อบริหารเสน่ห์ของเขา นักรบทำให้ ตุลย์ เชื่อว่า บริษัทของเขาพร้อมจะให้ข้อเสนอที่ดีกว่า ดารารายและตุลย์เริ่มใจอ่อน ในที่สุด ดารารายยอมทิ้งจอมทัพ ตุลย์ตัดสินใจในโค้งสุดท้าย ปล่อยสัมปทานดาวเทียมให้บริษัทของนักรบ !


บริษัทของจอมทัพ พ่ายแพ้ในนาทีสุดท้ายด้วยฝีมือหว่านเสน่ห์ของนักรบ นักรบได้ตำแหน่ง ซีอีโอ กลับคืนมา และนิมมานถูกปลด !! นักรบกลับไปหาอุ่นใจ ไม่มีคำว่ารอคอยเหมือนนักรบคนซื่อคนเดิม เขาตัดหน้าลักพาตัวอุ่นใจมาขณะที่อุ่นใจกำลังรอจอมทัพ นักรบพาหล่อนไปลงเรือสำราญกลางทะเล นี่ไงความหรูหราที่อุ่นใจต้องการ ไม่ใช่แค่บ้านริมทะเลเหมือนคราวก่อน ครั้งนี้คือเรือสำราญ ความเริ่ดหรูแบบนี้ใช่ไหมที่อุ่นใจต้องการ


อุ่นใจอยู่กับนักรบสามวันสามคืน บนเกาะเล็กๆ ห่างไกลผู้คน อุ่นใจเหมือนคนอื่น ไม่แน่ใจว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือใคร นักรบเสือร้ายหรือนักรบคนดี! นักรบพาอุ่นใจกลับเข้าฝั่ง นักรบแสดงความรับผิดชอบที่พาอุ่นใจหายไป ด้วยการเดินไปสั่งให้จอมทัพ ถอนหมั้น นักรบขอแต่งงานกับอุ่นใจต่อหน้าจอมทัพ จอมทัพต่อยหน้านักรบ ... แกลักพาตัวอุ่นใจ แกไม่ใช่ลูกผู้ชาย ... นักรบต่อยจอมทัพกลับ จอมทัพต่างหากที่ไม่ยอมรับความจริง ดูก็รู้ว่าผู้หญิงไม่ได้รักจอมทัพ ยังดันทุรังอยู่ได้


นิมมานทนไม่ได้ หล่อนปรึกษากับนักคิด นักคิดสั่งให้เพื่อนนักเลงชื่อ จ้อย จัดการฆ่านักรบ แต่เพื่อนนักเลงทำพลาด ด้วยความโมโห นักคิดคว้าปืนออกมาไล่ล่านักรบ นักรบขึ้นรถมอเตอร์ไซด์หนี นักคิดขึ้นรถตาม ในที่สุด นักรบหักหลบกระสุนปืน รถคว่ำแฉลบข้างทาง นักคิดถูกตำรวจจับข้อหาพยายามฆ่า ! นักรบถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด เป็นตายเท่ากัน !


ขณะที่นักรบอยู่ในโรงพยาบาล คำสั่งบริจาคเงินจำนวนมากหลั่งไหลออกมาจากไทเกอร์คิง นักรบทำให้กรรมการทั้งหลาย เซ็นยินยอมแผนงานเปลี่ยนภาพลักษณ์ของไทเกอร์ ให้เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยความเสียสละ เห็นอกเห็นใจพนักงานและซื่อตรงต่อลูกค้า ที่แท้ นักรบคนดีและนักรบเสือร้าย ค้นพบวิธีที่จะอยู่ร่วมกันมาพักหนึ่งแล้ว ความทรงจำส่วนต่างๆของเขากลับคืนมาทั้งหมด เขาหายจากโรคจิตบุคลิกซับซ้อน ตั้งแต่เมื่อเขาคิดจะสู้เมื่อหลายเดือนก่อน


หนึ่งปีต่อมา ท้องทะเลงามสีคราม มีโอกาสต้อนรับชายคนหนึ่ง เขามากับสาวสวย และเด็กชายคนหนึ่ง นักรบมาพักฟื้นที่นี่ สมองเขาเป็นปรกติ จิตใจของเขาสงบสุข คนเก่งและคนดี หาความสมดุลของชีวิตได้ในที่สุด นักรบกอดอุ่นใจและโอ๋ เงินทอง หรือเกียรติยศ ไม่สำคัญเท่าเวลานี้ เวลาที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคนรัก ... ริมทะเลสวยงาม



ออกอากาศ : ละครหลังข่าว พุธ - พฤหัสบดี 20.25 น. เริ่มตอนแรก คืนวันพุธที่ 1 ก.ย. 2553 นี้

บทประพันธ์ : เสนีย์ บุษปะเกศ
บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
กำกับการแสดง : นนทนันท์ สังข์สวัสดิ์
ผู้ผลิต : ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด 

http://www.baanseries.com/thai/detail.asp?param_id=1375

พูดภาษาเหนือ





              ภาษาเหนือ ติดตาม รวบรวมภาษาเหนือ พร้อมแปล โดยละเอียด ทั้ง คำกริยา คำนาม สัตว์ สิ่งของ สรรพนาม และอื่นๆอีก ที่เกี่ยวข้อง มาไว้ให้ท่านผู้สนใจได้ เรียนรู้ ได้ศึกษา หวังว่า บทความนี้คงเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะค่ะ

คำศัพท์ภาษาเหนือ คำนาม สรรพนาม

ฉัน = เปิ้น (สุภาพ) , ฮา(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
เธอ = ตั๋ว(สุภาพ) , คิง(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
เขา(สรรพนามบุรุษที่ 3) = เปิ้น
ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา = อุ้ย (เช่น แม่อุ้ย ป้ออุ้ย)
ผู้ชาย = ป้อจาย
ผู้หญิง = แม่ญิง
พวกเขา = หมู่เขา
พวกเธอ = สูเขา (สุภาพ), คิงเขา(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
พวกเรา = หมู่เฮา, เฮาเขา
พ่อ = ป้อ
พี่ชาย = อ้าย,ปี่
พี่สาว = ปี่
ยี่สิบ บาท = ซาวบาท
ยี่สิบเอ็ด = ซาวเอ็ด
เรือน = เฮือน
โรงเรียน = โฮงเฮียน
อิฐ = บ่าดินกี่
คำเล่าลือ = กำสีเน
ปฏิทิน = ปั๊กกะตืน คำเมืองแท้ๆจะแปลว่าปฏิทิน 



จำนวนนับ
 1 = นึ่ง
2 = สอง
3 = สาม
4 = สี่
5 = ห้า
6 = ฮก
7 = เจ๋ด
8 = แปด
9 = เก้า
10 = ซิบ
11 = ซิบเอ๋ด
20 = ซาว
21 = ซาวเอ๋ด

พืช ผัก ผลไม้ 

มะละกอ = บะก้วยเต๊ศ
กล้วยน้ำว้า = ก้วยอ่อง / ก้วยนิอ่อง
มะตูม = บะปีน
ส้ม เขียวหวาน = ส้มเกลี้ยง เขียวหวาน
แตงล้าน = ม่ะแต๋งซั้ง ( ร้านที่ทำให้เครือแตงพันขึ้นไป ทางเหนือเรียกว่า ซั้ง )
น้อยหน่า = ม่ะหน้อแหน้ / น้อยแหน้
บวบงู = ม่ะนอยงู
มะเขือเปราะ = บะเขือผ่อย
มะเขือยาว = บะเขือขะม้า - - ออกเสียง ม่ะเขือขะม่า / ม่ะเขือหำม้า
มะระ ขี้นก = บะห่อย
แตงกวา = บะแต๋ง
กล้วย = เชียงใหม่ เรียก ก้วยใต้ ลำปาง เรียก ก้วยลิอ่อง หรือ ก้วย โก๊ย
กล้วยน้ำว้า = ก้วยใต้
พุทรา = หม่ะตัน
ละมุด = หม่ะมุด
กระท้อน = บะตื๋น หมะต้อง
มะปราง = บะผาง
ฝรั่ง = บ่ะหมั้น,บะแก๋ว
ขนุน = หม่ะหนุน,บ่ะหนุน
มะพร้าว = บะป๊าว
ส้มโอ = บะโอ
ฟักทอง = บะฟักแก้ว /บะน้ำแก้ว/น้ำแก้ว
ฟัก เขียว = บะฟักหม่น
มะแว้ง = บะแขว้งขม
มะเขือพวง = บะแขว้ง /บ่ะแขว้งกุลา
ลูกยอ = หม่ะต๋าเสือ
มะเขือเทศ = บะเขือส้ม
กระท้อน = บะตึ๋น
ตะไคร้ = ชะไคร
คึ่นช่าย = ผักกะพึน,กำพึน (กะปึน)
ผัก ตำลึง = ผักแคบ
ชะพลู = ผักแค ใบปูนา ปูลิง

สัตว์ 

จิ้งหรีด = จิ้กุ่ง,จิ้หีด
ค้าง คก = ค้างคาก กบตู่
ลูกอ๊อด = อีฮวก
ปลาไหล = ปลาเอี่ยน ปลาเหยี่ยน
จิ้งเหลน = จั๊ก-กะ-เหล้อ
กิ้งก่า = จั๊ก-ก่า

เครื่องใช้กรรไกร = มีดยับ มีดแซม
กระดุม = บะต่อม
เข็มขัด = สายแอว สายฮั้ง
ช้อน = จ๊อน
ทับพี = ป้าก
ถุง เท้า = ถุง**
ผ้าเช็ดตัว = ผ้าตุ้ม
ผ้า ห่ม = ผ้าต๊วบ
ยาสูบ = ซีโย
รองเท้า = เกือก /เกิบ
รองเท้า ฟองน้ำ = แค็บ

คำกริยา 

กำปั้น หมัด = ลูกกุย
โกรธ = โขด
กลับ = ปิ๊ก (เช่น "เฮาปิ๊กบ้านละหนา")
กาง ร่ม = กางจ้อง
โกหก = วอก ขี้จุ๊
กิน = กิ๋น
ก่าย = ปาด อิง
ขโมย = ขี้ลัก
ขี่หลังคน(เกาะ) = เก๊าะ
ขี้เหนียว = ขี้จิ๊
คิด = กึ๊ด
เครียด = เกี้ยด
จริง = แต๊(เช่น "แต๊ก๊ะ" = "จริงหรอ")
เจ็บ = เจ๊บ
ใช้ = ใจ๊
ดู = ผ่อ
เด็ก = ละอ่อน
ตกคันได = ตกบันได
เที่ยว = แอ่ว
ทำ = ยะ(เช่น "ยะหยัง" = "ทำอะไร")
นั่ง พับเพียบ = นั่งป้อหละแหม้
นั่งขัดสมาธิ = นั่งขดขวาย
นั่งยอง ๆ = นั่งข่องเหยาะ,หย่องเหยาะ
นั่งไขว่ห้างเอาเท้าข้างหนึ่งพาดบนเข่า = นั่งปกขาก่ายง้อน
นั่งวางเฉย นั่งหัวโด่ = นั่งคกงก(ก๊กงก)
นั่งลง ไปเต็มที่ตามสบาย(โดยไม่กลัวเปื้อน) = นั่งเป้อหละเหม้อ, นั่งเหม้อ
พูด = อู้
รัก = ฮัก
รู้ = ฮู้
ลื่นล้ม = ผะเริด
วิ่ง = ล่น
สวม รองเท้า = ซุบแข็บ
สะดุด = ข้อง
สวยจังเลยนะ = งามหลายน้อ
สบาย อกสบายใจ = ซว่างอกซว่างใจ๋
เหรอ = ก๊ะ
ห่วง = ห่วง (คำเมืองแท้ๆคือ อ่วง ว้อง หรือ ข๋าง)
เหนื่อย = อิด หม้อย
ให้ = หื้อ
อยาก = ไข
อยากอ้วก อยากอาเจียน = ใขฮาก
อร่อย = ลำ
อร่อย มาก = จ๊าดลำ
อย่าพูดมาก = จ๊ะไปปากนัก
อย่าพูดเสียงดัง = จ๊ะไปอู้ดัง
คิดไม่ออก = กึ๊ดหม่ะออก

คำวิเศษณ์ และอื่นๆ 

ก็ = ก่
** = ง่าว
เช่น = เจ้น
ถึง = เถิง
ไม่ = หมะ(เช่น หมะใจ๊ = ไม่ใช้)
นะ = เน้อ(เช่น เน้อครับ = นะครับ)
เป็น = เป๋น
ร่ม หมายถึง ร่มเงา = ฮ่ม
ร่ม หมายถึง (ร่มกันแดด-กันฝน) = จ้อง
ใหญ่ = หลวง(เช่น "หูหลวง" = "หูใหญ่")
เหนียว = ตั๋ง
ทุก = กุ๊ (เช่น กุ๊ๆ คน= ทุกๆคน)
แบบนี้ อย่างนี้ = จะอี้
แบบนั้น อย่างนั้น = จะอั้น

คำนาม สรรพนาม[/b]
ฉัน = เปิ้น (สุภาพ) , ฮา(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
เธอ = ตั๋ว(สุภาพ) , คิง(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
เขา(สรรพนาม บุรุษที่ 3) = เปิ้น
ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา = อุ้ย (เช่น แม่อุ้ย ป้ออุ้ย)
ผู้ชาย = ป้อจาย
ผู้หญิง = แม่ญิง
พวกเขา = หมู่เขา
พวก เธอ = สูเขา (สุภาพ), คิงเขา(ไม่ค่อยสุภาพส่วนใหญ่ใชักับเพื่อนผู้ชาย)
พวก เรา = หมู่เฮา, เฮาเขา
พ่อ = ป้อ
พี่ชาย = อ้าย,ปี่
พี่สาว = ปี่
ยี่สิบบาท = ซาวบาท
ยี่สิบเอ็ด = ซาวเอ็ด
เรือน = เฮือน
โรงเรียน = โฮงเฮียน
อิฐ = บ่าดินกี่
คำเล่าลือ = กำสีเน
ปฏิทิน = ปั๊กกะตืน คำเมืองแท้ๆจะแปลว่าปฏิทิน



สี 

ดำ คึลึ = คนอ้วนล่ำผิวดำ
ดำผืด = ฝูงนกฝูงกาขนดำอยู่เป็นฝูง
ดำคุมมุม = ดำสลัวอยู่ในความมืด
ดำขิกติ้ก = ดำซุปเปอร์
ดำคิมมิม = คนผอมกระหร่อง ผิวดำ
ดำเหมือนเเหล็กหมก = ดำเหมือนเหล็กไหม้ไฟ
ดำ เหมือนหมิ่นหม้อ = ดำเหมือนเขม่าติดหม้อดินที่ไหม้ไฟ
ดำผึด = ดำทั่วทั้งแถบ
ดำผึดำผึด = ดำมากๆทั่วๆไป
แดงฮ่าม = แดงอร่าม
แดง เผ้อเหล้อ = แดงเป็นจุดใหญ่จุดเดียว
แดงปะหลึ้ง = แดงจัดมาก
แดงปะ หลิ้ง = แดงอมชมพู แดงเป็นจุดเล็กๆ
เหลืองฮ่าม = เหลืองอร่าม
เหลือ งเอิ่มเสิ่ม = เหลืองอมส้ม
เขียวอุ้มฮุ่ม = เขียวแก่
เขียวปึ้ด = เขียวจัดมาก
มอยอ้อดฮ้อด = สีน้ำตาลหม่น
ขาวจั๊วะ = ขาวนวล
ขาว โจ๊ะโฟ้ะ = ขาวมากๆ
ขาวเผื้อะขาวเผือก = มองไปทางไหนก็ขาวไปหมด
เปิด เจ้อะเห้อะ = สีขาวซีด
หม่นซ้อกป้อก = หม่นมัวหรือเทาอ่อน
หม่นโซ้ก โป้ก = หม่นสกปรกหรือสีเทาแก่
หมองซ้อกต๊อก = ดูเก่า หรือซีด จืดไป
เส้า แก๊ก = สีหม่นหมองมาก
เส้าตึ้มตื้อ = ใบหน้าหมองคล้ำ สีมืดไม่สดใส
ลาย ขุ่ยหยุ่ย = ลายพร้อย หรือลายเป็นดอกดวง
ใสอ้อดหล้อด = สดใสแบบอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ
ใส่ยงยง = สว่างจ้า



แสง-เสียง 

มืดแถ้ก = มืดสนิท
มืดสะ ลุ้ม = มืดสลัวๆ
มืดซุ้มซิ้ม = มืดนิดๆ
มืดวุ่ยวาย = มืดลางๆ ยังพอจำหน้ากันได้
แจ้งฮุมหุฮุมหู่ = สว่างลางๆเลือนๆ
แจ้งฮ่าม = สว่างจ้าสว่างเรืองรอง
แจ้งลึ้ง = สว่างโร่เห็นได้ชัด
แจ้งดีขวาย งาม = สว่างปลอดโปร่งโล่งใจไม่มีอุปสรรค
หันวุยวาย = เห็นเลือนๆลางๆ
ดั้ก ปิ้ง = เงียบกริบ
ดั้กปิ้งเย็นวอย = เงียบเชียบ
ดั้กแส้ป = ไม่ได้ข่าวคราว
ดั้กก๊กงก = นั่งนิ่ง
ดังทึดทึด = เสียงดังก้องไปทั่ว

กลิ่น รส 

เหม็น โอ๊ง, เหม็นโอ่ = เหม็นเน่า
จ๋างแจ้ดแผ้ด = จืดชืด
ขมแก๊ก = ขมมาก
ส้ม โจ๊ะโล๊ะ = รสเปรี้ยวมาก
ฝาดหยั่งก้นตุ๊ = รสฝาดมาก 




http://entertain.tidtam.com/data/12/0337-1.html










วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ศัพท์ภาษาเกาหลี

ภาษาเกาหลี

ภาษาเกาหลี
한국어 ฮันกุกอ, 조선어 โชซอนอ
พูดใน: เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและ ญี่ปุ่น
จำนวนผู้พูด: 80 ล้าน [1] 
อันดับ: 12 (จำนวนใกล้เคียงกับภาษาเวียดนาม ภาษาเตลูกู ภาษาทมิฬ ภาษามราฐี)
ตระกูลภาษา: ไม่มีการ จัด อาจจะเป็นตระกูลภาษาอัลไตอิก หรือ ภาษาเอกเทศ 
สถานะทางการ
ภาษาทางการใน: เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้
ผู้วางระเบียบ: สถาบันภาษา เกาหลีแห่งชาติ
รหัสภาษา
ISO 639-1: ko
ISO 639-2: kor
ISO 639-3: kor
สารานุกรมภาษา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมภาษา
ภาษาเกาหลี (한국어/조선어, ดู ในส่วนชื่อ) เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ และมีคนชนเผ่าเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนพูด โดยทั่วไป(ในจังหวัดเหยียนเปียน มณฑลจื๋อหลิน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลี) ทั่วโลกมีคนพูดภาษาเกาหลี 78 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนในอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้พูดใน ฟิลิปปินส์ ด้วย การ จัดตระกูลของภาษาเกาหลีไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่คนส่วนมากมักจะถือเป็นภาษาเอกเทศ นักภาษาศาสตร์บางคนได้จัดกลุ่มให้อยู่ใน ตระกูลภาษาอัลไตอิกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเกาหลีมีวจีวิภาคแบบภาษาคำติดต่อ ส่วนวากยสัมพันธ์หรือโครงสร้างประโยคนั้น เป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา (SOV)
อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล ใช้แทนเสียงของแต่ละพยางค์ นอกจากนี้ใช้ยังตัวอักขระแบบจีนเรียกว่าอักษรฮันจา ในการเขียนด้วย ในขณะที่คำศัพท์ที่ใช้กันส่วนใหญ่เป็นคำภาษาเกาหลีแท้ โดยที่มีคำศัพท์มากกว่า 50% มาจากภาษาจีนทั้งทางตรงและทางอ้อม

เนื้อหา

[ซ่อน]

[แก้] เกี่ยว กับชื่อ

ชื่อเรียกคำว่า "ภาษาเกาหลี" ในเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีความแตกต่างกัน ในเกาหลีเหนือ ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มักเรียกว่า โชซอนมัล (조선말) หรือหากเป็นทางการขึ้นจะเรียกว่า โชซอนอ (조선어)
ในเกาหลีใต้ ประชาชนส่วนใหญ่เรียกภาษาของตนว่า ฮันกุกมัล (한국말) หรือ ฮันกุกอ (한국어) หรือ กุกอ (국어) บางครั้งอาจเรียกในแบบภาษาพื้นเมืองหรือภาษาถิ่นว่า อูรีมัล (แปลว่า "ภาษาของเรา"; มาจากคำว่า 우리말 (เขียนติดกันในเกาหลีใต้),หรือ 우리 말 (เขียนแยกกันในเกาหลีเหนือ))

[แก้] สำเนียง ท้องถิ่น

สำเนียงท้องถิ่นภาษาเกาหลี
ภาษาเกาหลีมีสำเนียงท้องถิ่นมาก มาย ภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีใต้คือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้ในพื้นที่บริเวณกรุงโซล และภาษาทางการที่ใช้ในเกาหลีเหนือคือสำเนียงท้องถิ่นที่ใช้บริเวณกรุงเปียงยาง สำเนียงท้องถิ่นโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกัน ยกเว้นสำเนียงท้องถิ่นบนเกาะเชจูที่มีความแตกต่างค่อนข้างมาก ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างสำเนียงท้องถิ่นแต่ละแห่งคือ การเน้นเสียง (stress) สำเนียงท้องถิ่นของกรุงโซลจะเน้นเสียงน้อยมาก และไม่ค่อยมีความสูงต่ำในการเปล่งเสียง ในทางกลับกัน สำเนียงท้องถิ่นของ คยองซัง มีความสูงต่ำของการออกเสียงอย่างมากจนคล้ายกับภาษาทางยุโรป อย่างไรก็ตามเราสามารถจำแนกสำเนียงท้องถิ่นของภาษาเกาหลีออกเป็นภูมิภาค ต่างๆได้ดังตาราง โดยพิจารณาจากขอบเขตของภูเขาและทะเล**
สำเนียงทางการ บริเวณที่ใช้
โซล โซล อินชอน เกียงกี (เกาหลีใต้) และ แคซอง (เกาหลีเหนือ)
เปียงยาง เปียงยาง ชากัง (เกาหลีเหนือ)
สำเนียงท้องถิ่น บริเวณที่ใช้
ชุงชอง แตจอน ชุงชอง (เกาหลีใต้)
กังวอน กังวอน (เกาหลีใต้)/ กังวอน (เกาหลีเหนือ)
คยองซัง บูซาน, แทกู, อุลซาน, เขตคยองซัง (เกาหลีใต้)
ฮัมกยึง ราซึน, เขตฮัมกยึง, รยังกัง (เกาหลีเหนือ)
ฮวังแฮ เขตฮังแฮ (เกาหลีเหนือ)
เชจู เกาะเชจู/จังหวัดเชจู (เกาหลีใต้)
จอลลา กวางจู, เขตจอลลา (เกาหลีใต้)

[แก้] อักษร เกาหลี

ดูบทความหลักที่ อักษรฮันกึล
พยัญชนะเกาหลี 14 ตัว
อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล โดยผิวเผินแล้ว อักษรฮันกึลคล้ายกับอักษรรูปภาพเหมือนอักษรจีน แต่จริงๆ แล้ว อักษรฮันกึลอยู่ในระบบอักษรแทนเสียง (ตัวพยัญชนะเป็นอักษรรูปภาพเลียนแบบอวัยวะการออกเสียงในขณะที่ออกเสียงนั้นๆ สระเป็นอักษรรูปภาพใช้แนวคิดเชิงปรัชญา เกี่ยวกับ ท้องฟ้า พื้นดิน และมนุษย์)คือประกอบด้วยพยัญชนะและสระ ซึ่งมีทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย
  • พยัญชนะ 14 ตัว คือ ㄱ ㄴ ㄷ ㄹ ㅁ ㅂ ㅅ ㅇ ㅈ ㅊ ㅋ ㅌ ㅍ และ ㅎ
  • สระ 10 ตัว คือ ㅏ ㅑ ㅓ ㅕ ㅗ ㅛ ㅜ ㅠ ㅡและ ㅣ
พยัญชนะและสระดังกล่าวเรียกว่า พยัญชนะเดี่ยว และสระเดี่ยว ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่าพยัญชนะซ้ำ และสระประสมด้วย คือ
  • พยัญชนะซ้ำ 5 ตัว ได้แก่ ㄲ ㄸ ㅃ ㅆ และ ㅉ
  • สระประสม 11 ตัว ได้แก่ ㅐ ㅒ ㅔ ㅖ ㅚ ㅟ ㅘ ㅙ ㅝ ㅞ และ ㅢ
อักษรเกาหลีมีลำดับการเขียนคล้ายอักษรจีน คือ ลากจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา นอกจากนี้การเขียนพยางค์หนึ่งๆ จะเริ่มเขียนจากพยัญชนะต้น ไปสระ และตัวสะกดตามลำดับ

[แก้] เลข เกาหลี

จำนวน คำอ่าน ภาษาเขียน
1 ฮา-นา / ฮัน 하나/한
2 ทูล / ทู 둘/두
3 เซด / เซ 셋/세
4 เนด / เน 넷/네
5 ทา-ซอด 다섯
6 ยอ-ซอด 여섯
7 อิล-กบ 일곱
8 ยอ-ดอล 여덟
9 อา-ฮบ 아홉
10 ยอล

[แก้] การ เทียบเสียง

ในภาษาเกาหลี ได้มีการกำหนดระบบในการถอดภาษาเกาหลีด้วยอักษรโรมัน ไว้ โดยเป็นที่นิยมมาก 2 ระบบ คือ ระบบกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลี 2000 ระบบที่ใช้อย่างเป็นทางการในประเทศเกาหลีใต้ปัจจุบัน และ ระบบแมกคูน-ไรซ์ชาวเออร์ ใช้ในประเทศเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการในปัจจุบัน และเคยใช้ในเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการในช่วง พ.ศ. 2527-2543
สำหรับในภาษาไทยนั้น เนื่องจากยังไม่มีการเทียบเสียงภาษาเกาหลีกับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ข้อมูลการเทียบเสียงต่อไปนี้จึงเป็นเพียงการเทียบเสียงเบื้องต้น ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องมากนัก พยัญชนะทุกตัวในภาษาเกาหลีมีเสียงแตกต่างกัน แต่พบว่าบางครั้งการได้ยินของคนไทยไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้เหมือนคน เกาหลี เช่น คำว่า 자 กับ 차 เป็นต้น

[แก้] พยัญชนะ


ฐานริมฝีปาก ฐานปุ่มเหงือก ฐานหลังปุ่มเหงือก ฐานเพดานอ่อน ฐานเส้นเสียง
เสียงกักและ
เสียงกึ่งเสียด แทรก
สิถิลเบา /p/ /t/ /t͡ɕ/ /k/
สิถิลหนัก /p͈/ ป* /t͈/ ต* /t͡ɕ͈/ จ* /k͈/ ก*
ธนิต /pʰ/ /tʰ/ /t͡ɕʰ/ /kʰ/
เสียงเสียดแทรก เบา
/s/

/h/
หนัก
/s͈/ ซ*


เสียงนาสิก /m/ /n/
/ŋ/ ง (ตัวสะกด)
เสียงข้างลิ้น
/l/

พยัญชนะบางตัวเช่น ㅂㅈㄱ เมื่ออยู่หน้าคำ (พยางค์แรกของคำ) จะออกเสียงเป็น พ, ช, ค ตามลำดับ หากไม่ได้อยู่ในพยางค์แรกจะอ่านเป็น บ, จ, ก เป็นต้น พยัญชนะที่กำกับดอกจันไว้หมายถึงพยัญชนะเสียงหนัก
สำหรับ ㅇ เมื่อเป็นพยัญชนะต้นแต่มีคำอื่นมาก่อน จะนำพยัญชนะสะกดของคำก่อนหน้ามาเป็นเสียงพยัญชนะต้น ดูที่ การ อ่านโยงเสียง
ตัวอย่างคำศัพท์
หน่วยเสียง ตัวอย่าง ทับ ศัพท์ คำแปล
/p/ [pal] bal เท้า
/p͈/ 빨다 [p͈alda] ppalda ซักผ้า
/pʰ/ [pʰal] pal แขน
/m/ [mal] mal ม้า
/t/ [tal] dal พระจันทร์
/t͈/ [t͈al] ttal ลูกสาว
/tʰ/ 타다 [tʰada] tada ขี่
/n/ [nal] nal วัน
/ʨ/ [ʨal] jal บ่อน้ำ
/ʨ͈/ 짜다 [ʨ͈ada] jjada คั้น
/ʨʰ/ 차다 [ʨʰada] chada เตะ
/k/ 가다 [kada] gada ไป
/k͈/ 깔다 [k͈alda] kkalda กระจาย
/kʰ/ [kʰal] kal มีด
/ŋ/ [paŋ] bang ห้อง
/s/ [sal] sal เนื้อหนัง
/s͈/ [s͈al] ssal ข้าวสาร
/l/ 바람 [paɾam] baram ลม
/h/ 하다 [hada] hada ทำ

[แก้] สระ

สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
สระเกาหลีพื้นฐาน

ฐาน +อี
ฐาน /a/ อา /ʌ/ ออ /o/ โอ /u/ อู /ɯ/ อือ /i/ อี /ɛ/ แอ /e/ เอ /ø/ เออ /wi/ วี /ɰi/ งึย (อึย)
ย+ /ja/ ยา /jʌ/ ยอ /jo/ โย /ju/ ยู

/jɛ/ แย /je/ เย


ว+ /wa/ วา /wʌ/ วอ



/wɛ/ แว /we/ เว


  • /ʌ/ ออกเสียงอยู่ระหว่าง "ออ" กับ "เออ" บางตำราก็ใช้ /ə/ "เออ" ไปเลย
  • /ø/ ออกเสียงอยู่ระหว่าง "เอ" กับ "เออ"
สระเกาหลีไม่เหมือนภาษาไทยซึ่งมีเสียงสั้นเสียงยาวแยกกัน เช่น สระอิ หรือ สระอี จะรวมเป็นสระเดียว คือ /i/ แต่จะเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวนั้นขึ้นอยู่กับการเน้นเสียง แม้คำที่เขียนเหมือนกันแต่อ่านด้วยเสียงที่ต่างกัน ความหมายก็อาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
สระเสียงสั้น สระเสียงยาว
/i/ อิ 시장 (sijang [ɕiˈʥaŋ], ความหิว) /iː/ อี 시장 (sijang [ˈɕiːʥaŋ], ตลาด)
/e/ เอะ 베개 (begae [peˈɡɛ], หมอน) /eː/ เอ 베다 (beda [ˈpeːda], ตัด)
/ɛ/ แอะ 태양 (taeyang [tʰɛˈjaŋ], พระอาทิตย์) /ɛː/ แอ 태도 (taedo, [ˈtʰɛːdo], ความคิดเห็น)
/a/ อะ (mal [ˈmal], ม้า) /aː/ อา (mal [ˈmaːl], คำ, ภาษา)
/o/ โอะ 보리 (bori [poˈɾi], ข้าวบาร์เล่ย์) /oː/ โอ 보수 (bosu [ˈpoːsu], เงินเดือน)
/u/ อุ 구리 (guri [kuˈɾi], ทองแดง) /uː/ อู 수박 (subak [ˈsuːbak], แตงโม)
/ʌ/ เอาะ (beol [ˈpʌl], การลงโทษ) /əː/ เออ (beol [ˈpəːl], ผึ้ง)
/ɯ/ อึ 어른 (eoreun [ˈəːɾɯn], ผู้อาวุโส) /ɯː/ อือ 음식 (eumsik [ˈɯːmɕik], อาหาร)
^ ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ออกเสียง /ʌː/ "ออ" (เสียงยาว) เป็น /əː/ "เออ"

[แก้] ตัว สะกด

แม้พยัญชนะเกาหลีจะมีหลายตัว และแต่ละตัวเสียงแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาใช้เป็นตัวสะกดแล้ว จะมีทั้งหมด 7 แม่เท่านั้น ดังตาราง จะเห็นว่าคล้ายคลึงกับภาษาไทย โดยที่ต่างออกไปคือ เสียง "ล" เมื่อนำไปเป็นตัวสะกดแล้วจะไม่ใช่เสียง "น" นอกจากนี้อาจพบตัวสะกดแบบที่มีพยัญชนะสะกดสองตัว เช่น 여덟, 앉다 ฯลฯ ตัวสะกดลักษณะนี้จะเลือกออกเสียงเฉพาะตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น และอีกตัวจะไม่ออกเสียง เช่น 여덟 อ่านว่า /ยอ-ดอล/ ไม่ใช่ /ยอ-ดอบ/ การที่จะทราบว่าตัวสะกดคู่จะออกเสียงพยัญชนะตัวใด แสดงดังตาราง อย่างไรก็ตามมีตัวสะกดคู่บางส่วนที่ออกเสียงไม่แน่นอนขึ้นกับคำ คือ ㄺ และ ㄼ
ตัวสะกด พยัญชนะ ตัวอย่าง
กง 성 = /ซอง/
กน ㄴ ㄵ ㄶ 원 = /วอน/
กม ㅁ ㄻ 남 = /นัม/
กก ㄱ ㄲ ㅋ ㄳ 밖 = /ผัก/
กด ㄷ ㅅ ㅆ ㅈ ㅉ ㅊ ㅌ ㅎ 이것 = /อี-กอด/
กบ ㅂ ㅍ ㅄ ㄿ 십 = /ฉิบ/, 없 = /ออบ/
กล ㄹ ㄽ ㄾ ㅀ 팔 = /พัล/
ไม่แน่นอน ㄺ ㄼ 여덟 = /ยอ-ดอล/

[แก้] การ อ่านโยงเสียง

ในพยางค์หนึ่งๆ กรณีที่พยัญชนะต้นเป็นตัวอีอึง (ㅇ) เสียงของมันอาจไม่ใช่เสียง "อ" แต่จะเป็นเสียงของตัวสะกดในพยางค์ก่อนหน้าแทน เช่น
  • 직업 อ่านว่า /지겁/ (ชี-กอบ) ไม่ใช่ /직-업/ (ชิก-ออบ)
  • 당신은 อ่านว่า /당시는/ (ทัง-ชี-นึน) ไม่ใช่ /당-신-은/ (ทัง-ชิน-อึน)
ถ้าไม่มีคำใดมาก่อนจะออกเสียงคล้าย อ หรือถ้าคำก่อนหน้าไม่มีพยัญชนะสะกด จะออกเสียงเชื่อมสระเข้าด้วยกัน

[แก้] กฎ การอ่านแบบกลมกลืนเสียง*

ในพยางค์ใดที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดและพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปที่ติดกัน
เสียงของตัวสะกดจะเปลี่ยนเพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัด กัน โดยจำแนกไว้เป็นกฎต่างๆดังต่อไปนี้
1. พยางค์ใดลงท้ายด้วยตัวสะกดในแม่ /ㄱ/, /ㄷ/, /ㅂ/ และพยัญชนะต้นในพยางค์ถัดไปเป็นเสียงนาสิก เสียงตัวสะกดจะเปลี่ยนเป็น /ㅇ/,/ㄴ/,/ㅁ/ ตามลำดับ เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน

ตัวอย่างเช่น
집는다 -> /짐는다/ เขียนว่า "ชิบนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ชิมนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
받는다 -> /반는다/ เขียนว่า "พัดนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "พันนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน
속는다 -> /송는다/ เขียนว่า "ซ๊กนึนดา" แต่จะอ่านเป็น "ซงนึนดา" เพื่อให้ออกเสียงได้สะดวกกลมกลืนและไม่ขัดกัน

ที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ ไวยากรณ์ลงท้ายประโยคอย่างสุภาพ "~습니다" ถึงแม้ว่าจะเขียนเป็น ซึ่บนิดา แต่เพื่อให้เป็นไปตามเหตุผลดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เราก็จะอ่านว่า ซึม นิดา

[แก้] ตัวอย่าง ประโยคหรือวลีที่มักพบ

ประโยคเกาหลี คำอ่านไทย คำแปล
안녕하세요. อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย สวัสดี
감사합니다./고맙습니다. คัม-ซา-ฮัม-นิ-ดะ / โค-มับ-ซึม-นิ-ดะ ขอบคุณ
사랑해. ซา-รัง-แฮ ฉันรักคุณ
실례지만. ชิล-รเย-จี-มัน ขอประทานโทษครับ
안녕히 주무세요. อัน-นยอง-ฮี๊ จู-มู-เซ-โย ราตรีสวัสดิ์
반갑습니다. พัน-กั๊บ-ซึม-นี-ดา ยินดีที่ได้รู้จัก
죄송합니다. 저 먼저 갑니     다              ชเว-ซง-ฮัม-นี-ดา. ชอ-มอน-จอ-กัม-นี-ดา.        ขอโทษครับ ผมไปก่อนนะครับ             

สูตรอาหารไทย

สูตรอาหารไทย

ฉู่ฉี่กุ้ง 

 

ฉู่ฉี่กุ้ง

 

 

* กุ้ง 8-10 ตัว (ล้างและปอกเปลือก)
* น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ
   (แบ่งไว้นิดหน่อยสำหรับโรยหน้า)
* กะทิ 400 กรัม
* พริกชี้ฟ้าแดงหั่นตามยาว 1 เม็ด 
*น้ำมันพืช


วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟ เติมกะทิและน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด จนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน
2. ใส่กุ้งลงไปผัด จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล
3. ผัดจนเนื้อกุ้งสุกดี แล้วจึงเติมใบมะุกรูดลงไปผัดต่ออีก 1 นาที จึงปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบมะกรูดซอย, พริกชี้ฟ้าและผักชี เสริฟทันทีกับข้าวสวยร้อนๆ



ผัดไทยกุ้งสด

อาหารไทย : ผัดไทยกุ้งสด
* กุ้งสด 12 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)
* เส้นจันท์ (หรือเส้นเล็ก) 90 กรัม
* ถั่วงอก 50 กรัม
* ใบกุ้ยช่าย 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำส้มสายชู)
* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวไชโป้ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วลิสงบด 2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ 2 ฟอง
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบรสจัด)
* มะนาว 1/2 ลูก

 ถั่วงอกสด
วิธีทำทีละขั้นตอน
1. กรณีใช้เส้นชนิดแห้ง ให้นำเส้นไปแช่น้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไปผัดจนเริ่มสุก ตอกใส่ไข่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตก พอไข่เริ่มสุก ใส่เส้น, น้ำตาล, ถั่วลิสงและ หัวไชโป้ว ผัดจนเส้นเริ่มนุ่มและเครื่องปรุงทั้งหมดผสมกันทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมันหอย และน้ำมะขาม (หรือน้ำส้มสายชู) ใส่ถั่วงอก, หัวไชโป้วและพริกป่น (ถ้าชอบรสจัด) ผัดอย่างรวดเร็วให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว ตักใส่จาน จัดแต่งด้วยถั่วงอกสด, พริกป่น, และมะนาว ข้างจาน ควรเสิรฟขณะยังร้อน 


ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา

ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา

 

* ปลาหมึก 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* ต้นหอม 50 กรัม (หั่นยาวประมาณครึ่งนิ้ว)
* พริกชี้ฟ้าแดงหรือเหลือง 2 เม็ด (หั่นตามยาว)
* หอมใหญ่หั่น 1/2 ลูก
* น้ำพริกเผา 1.5 ช้อนชา
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
* น้ำมันพืชสำหรับทำอาหาร
* ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)
ปลาหมึกสด 
  วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่ปลาหมึกและหอมใหญ่ลงไปผัดพร้อมกันจนเกือบสุก (ระวังอย่าผัดจนปลาหมึกสุกเกินไป เนื้อปลาหมึกจะมีรสชาติดีที่สุดเมื่อใกล้สุก ถ้าสุกเกินไปเนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย)
2. เติม น้ำพริกเผา, ซิอิ๊วขาว, ต้นหอม, พริก และน้ำตาล ผัดต่อไปอีกประมาณ 2 นาที จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ
3. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

http://www.ezythaicooking.com/free_recipes_th.html